พัฒนาการ ทารก 7 เดือน เป็นช่วงที่พ่อแม่ต้องเจอกับปัญหา เช่น ลูกยังไม่นั่ง ยังไม่คลาน บ้างก็ท้องเสีย ไม่ถ่าย ไม่ยอมกินข้าว นอนยากกระสับกระส่าย ตื่นบ่อย ไม่ยอมดูดขวดนม งอแง อีกทั้งยังต้องมีความรู้ในเรื่อง ของเล่นเสริมพัฒนาการ เด็กควรถ่ายกี่ครั้ง กินข้าวกี่มื้อ กินอาหารอะไรได้บ้าง กินน้ําได้รึยัง ควรนอนกี่ชั่วโมง ก็ควรต้องรู้เป็นอย่างดีตั้งแต่เริ่มต้น
นั้นเพราะลูกน้อยจะเริ่มหัดเดิน หยิบจับสิ่งต่าง ๆ และเริ่มซุกซน มองหาสิ่งแปลกใหม่ ต้องการพื้นที่กว้างในการสำรวจสิ่งต่าง ๆ ด้วย ซึ่งในบทความนี้จะพูดถึงเรื่องปัญหาของเด็กและการแก้ไข และสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่จำเป็นต้องรู้ หากพร้อมแล้วไปอ่านกันได้เลย!!
พัฒนาการ ทารก 7 เดือน ด้านการเคลื่อนไหวและร่างกาย ควรเป็นยังไง?
สำหรับพัฒนาการเด็กวัย 7 เดือนจะมีการพัฒนาด้านการเคลื่อนไหวและร่างกาย กล้ามเนื้อจะมีการพัฒนามากขึ้น มือและนิ้วจะแข็งแรงขึ้น หยิบจับสิ่งของได้มั่นคงมากขึ้น
เด็กจะสามารถยันตัวให้อยู่ในท่านั่งหรือเริ่มคลานได้แล้ว บางคนอาจมีการยึดเกาะเพื่อยืนด้วยตัวเอง มีการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ รอบตัว
จึงทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของทารกเป็นอันดับแรก เพราะลูกน้อยจะเริ่มสำรวจสิ่งรอบตัวมากขึ้น เพราะฉะนั้นสิ่งของที่ต้องระวังมากเลยก็คือ ปลั๊กไฟ พัดลม และของมีคมต่าง ๆ
นอกจากนี้แล้วยังมีพัฒนาการด้านอื่นๆอยู่อีก
คุณสามารถ Click เข้าไปดูเนื้อหาหัวข้อนี้อย่างละเอียดได้ที่ : คู่มือ พัฒนาการ เด็ก 7 เดือน สำหรับคุณแม่มือใหม่ต้องอ่าน!!
ของเล่นเสริมพัฒนาการ 7 เดือน มีอะไรบ้าง?
ในเรื่อง ของเล่นเสริมพัฒนาการ 7 เดือน นั้น สมองของทารกในวัยนี้จะสามารถจดจำใบหน้าของคุณพ่อคุณแม่ได้ และเริ่มแยกแยะความแตกต่างของสิ่งของได้แล้ว มีการตอบสนองต่อเสียงที่ได้ยิน
ดังนั้นเด็กวัยนี้ควรให้เล่นของเล่นที่มีเสียง เช่น เครื่องดนตรีปุ่มกด เพื่อฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กในการออกแรงกด และฝึกการฟังเสียงไปด้วยพร้อม ๆ กัน
ทั้งนี้เสียงเพลงจากของเล่นจะยิ่งช่วยฝึกสมอง สายตา และนิ้วมือให้ทำงานสอดคล้องกัน อีกทั้งยังกระตุ้นให้เด็กอยากออกเสียงตาม ส่งผลให้เด็กพูดได้เร็วขึ้นอีกด้วย
และเนื่องจากทารกน้อยวัยนี้เป็นวัยที่กล้ามเนื้อมีการพัฒนามากขึ้น การเลือกของเล่นที่เคลื่อนที่ได้ให้ทารกเล่นควบคู่ไปด้วยก็ยิ่งจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการที่ดีให้ทารกเป็นอย่างมาก
ลูก7เดือนยังไม่คลาน ปกติไหม? ควรทำยังไงดี?
ในเรื่อง ลูก7เดือนยังไม่คลาน นั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจว่า ทารกแต่ละคนจะมีพัฒนาการที่ช้าและเร็วแตกต่างกันออกไป ช่วงเวลาในการเริ่มคลานของแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน เด็กบางคนอาจจะเริ่มคลานได้เร็วตั้งแต่อายุเพียงแค่ 4 เดือนก็เป็นได้
จากข้อมูลการศึกษาต่าง ๆ ในเด็กวัยนี้จะเริ่มมีพัฒนาการด้านร่างกายที่หลากหลาย โดยจะเริ่มยกมือ คลาน และเริ่มนั่งได้อย่างมั่นคงขึ้น พยายามจะเกาะเดิน หรือพยายามเขี่ยของชิ้นเล็ก ๆ เพื่อให้ได้ใช้กล้ามเนื้อได้มากขึ้น
แต่ถ้าลูกยังไม่คลาน หรือคลานช้า ในกรณีนี้ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ถือว่ามีพัฒนาการช้าแต่อย่างใด และที่สำคัญทารกบางคน สามารถที่จะข้ามขั้นไปเป็นการฝึกยืนและเริ่มเดินได้โดยที่ไม่ผ่านการฝึกคลานก่อนก็ได้ คุณพ่อคุณแม่แค่หมั่นคอยดูแลอย่างเอาใจใส่ตามความเหมาะสมของแต่ละช่วงวัยก็พอ
ไขข้อสงสัย ลูก 7 เดือน ยังไม่นั่ง ทำยังไงดี?
หากทารก หรือ ลูก 7 เดือน ยังไม่นั่ง คุณพ่อคุณแม่อาจจะช่วยเหลือได้ง่าย ๆ ด้วยการพยุงให้ลุกขึ้นนั่งอย่างช้า ๆ หรือใช้อุปกรณ์ที่ช่วยให้ทารกนั่งได้ง่ายขึ้น เช่น เก้าอี้หัดนั่ง เป็นต้น หรือใช้เคล็ดลับง่าย ๆ ดังนี้
- ฝึกให้ลูกนั่งบนตักของพ่อและแม่ เพื่อให้เขาเรียนรู้ว่าสามารถนั่งได้เอง
- คอยประคองลูกให้ฝึกเดิน เพื่อทรงตัว จากนั้นจับเขายกขึ้นและลง ให้ขาทั้ง 2 ข้างแตะกับพื้น
- ขยับเฟอร์นิเจอร์เข้ามาหาตัวทารกน้อย เพื่อให้ลูกมีที่เกาะเพื่อลองเดินและนั่ง
อย่างไรก็ตามทารกในวัยนี้ ยังไม่สามารถนั่งเองได้ ไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ คุณพ่อคุณแม่เพียงแค่ให้เวลาและจัดสรรพื้นที่ที่ปลอดภัย และปล่อยให้ทารกได้ใช้เวลาเล่น เรียนรู้ และเคลื่อนไหวเพื่อฝึกฝน พัฒนากล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้นได้เท่านั้นเอง
ลูก 7 เดือน ท้องเสีย ทำยังไงดี?
สำหรับอาการ ลูก 7 เดือน ท้องเสีย นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติ เมื่อเกิดอาการแล้วจะเกิดภาวะขาดน้ำ ซึ่งมีวิธีแก้ คือ ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ซึ่งควรให้ในปริมาณ 120-150 ซีซี (หรือประมาณค่อนแก้ว) ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ไม่ควรให้ในปริมาณมาก ๆ ต่อหนึ่งครั้ง แต่ควรแบ่งให้ในปริมาณน้อย ๆ แต่บ่อยครั้งแทน ก็จะสามารถช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำได้
ในกรณีที่ทารกยังกินนมแม่อยู่
คุณแม่ไม่จำเป็นต้องหยุดให้นม เด็กสามารถกินต่อไปได้ตามปกติ
ในกรณีที่ทารกกินนมชง
ให้ลดปริมาณลงครึ่งหนึ่ง และพยายามให้ดื่มน้ำทดแทนส่วนของอีกครึ่งหนึ่งที่ลดลงไป
ในกรณีที่ทารกสามารถทานอาหารตามวัยได้แล้ว
ควรให้อาหารอ่อน ๆ เช่น โจ๊ก หรือ ข้าวต้ม และต้องงดผัก ผลไม้ ไปก่อนจนกว่าอาการท้องเสียจะดีขึ้น โดยสังเกตได้จากอุจจาระจะออกมาเป็นลำนิ่ม ๆ เหมือนยาสีฟัน นั่นหมายความว่าไม่มีอาการท้องเสียอีกแล้ว
ทารก7เดือน ถ่ายกี่ครั้ง ? ถึงจะปกติ
หากสงสัยว่า ทารก7เดือน ถ่ายกี่ครั้ง ถึงจะปกติ จากค่าเฉลี่ยของทารกทั่วไปจะถ่ายประมาณ 1-2 ครั้ง ต่อวัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหารในวันนั้นด้วย
คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องหมั่นสังเกตอาการ ถ้าทารกถ่ายอุจจาระมากกว่า 3-4 ครั้งต่อวัน หรือมีอาการท้องเสียรุนแรง ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างทันท่วงที
ถ้า ทารก7เดือน ไม่ถ่าย ต้องทำยังไง?
หากเกิดอาการ ทารก7เดือน ไม่ถ่าย ควรแก้ปัญหา ดังต่อไปนี้
- พยายามฝึกให้ลูกน้อยดื่มน้ำเยอะ ๆ จะช่วยให้ถ่ายได้ง่ายขึ้นและไม่เกิดการท้องผูก เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญในร่างกาย
- เน้นให้รับประทานอาหารจำพวก ผัก ผลไม้ที่มีกากใย เช่น ส้ม กล้วย หรืออะโวคาโด ก็จะช่วยกระตุ้นให้ทารกขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
- ในกรณีที่ผ่านมาหลายวันแล้วยังไม่ขับถ่าย แนะนำว่าควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดจะดีที่สุด
ทารก 7 เดือน กินข้าวกี่มื้อ ?
คุณพ่อคุณแม่คงสงสัยว่า ทารก 7 เดือน กินข้าวกี่มื้อ เพราะในวัยนี้เริ่มมีพัฒนาการมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและก้าวกระโดด ทำให้ตามหลักโภชนาการ ทารกวัยนี้ควรได้รับประทานอาหารเพียง 1-2 มื้อต่อหนึ่งวัน ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งอาหารควรมีสารอาหารให้ครบถ้วน 5 หมู่ เน้นให้พลังงาน เพราะลูกต้องฝึกขยับร่างกายทั้งวัน ต้องควบคู่ไปกับการกินนมแม่ด้วย
อย่างไรก็แล้วแต่ ปริมาณอาหารจะขึ้นอยู่กับความแตกต่างของทารกแต่ละคน คุณพ่อคุณแม่สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำอย่างถูกต้องและเหมาะสม และวางโภชนาการที่ดีให้กับลูกน้อยได้
แก้ปัญหา ทารก7เดือน ไม่ยอมกินข้าว รับมือยังไงดี ?
หาก ทารก7เดือน ไม่ยอมกินข้าว คุณพ่อคุณแม่จำต้องลองเว้นระยะจากการป้อนนมสัก 2-3 ชั่วโมง และพยายามปรับมื้ออาหารให้ตรงกับช่วงเวลาที่คาดการณ์ว่าทารกน่าจะหิว วิธีการนี้อาจจะช่วยกระตุ้นให้เด็กยอมกินข้าวได้ง่ายขึ้น
นอกจากการปรับมื้ออาหารแล้ว ยังต้องปรับพฤติกรรมและสร้างบรรยากาศให้ลูกอยากกินข้าวมากขึ้น เช่น ชื่นชมหรือให้รางวัล หากลูกน้อยกินข้าว และไม่ควรบังคับหรือแสดงอาการโกรธเมื่อเด็กน้อยไม่ยอมทานอาหาร การสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายจะช่วยให้ลูกอยากอาหารมากขึ้นกว่าเดิม
ทารก7เดือนกินอะไรได้บ้าง ?
ในเรื่อง ทารก7เดือนกินอะไรได้บ้าง นั้น เนื่องจากเด็กวัยนี้เป็นวัยที่กำลังหมั่นเคี้ยว อยากทดลองเคี้ยวอาหาร และฟันเริ่มที่จะขึ้นแล้ว ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรหาเมนูผลไม้ ผักที่สุกนิ่ม เพื่อให้ลูกได้ใช้ทักษะลิ้นในการตวัดอาหาร และแตะเพดานปากได้ดีขึ้น ซึ่งเด็กสามารถรับประทานได้ทั้ง เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ และธัญพืชต่าง ๆ ซึ่งเมนูแนะนำจะมีดังนี้
- ข้าวบดผสมไข่ต้มทั้งฟอง หรือสลับกับเนื้อปลา
- เมนูข้าวโอ๊ตแบบต่าง ๆ เช่น ข้าวโอ๊ตตุ๋น หรือข้าวโอ๊ตตุ๋นกับผลไม้รสหวาน
- เมนูเพียวเร่ผลไม้ เช่น มะม่วงเพียวเร่ แอปเปิ้ลเพียวเร่
- ไข่ตุ๋นแบบต่าง ๆ เช่น ไข่ตุ๋นแครอท ไข่ตุ๋นบล๊อคโครี
- ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต หรือ ชีส เน้นธรรมชาติไม่เติมน้ำตาล หรือสารแต่งกลิ่น สี
- น้ำต้มผัก เช่น นำผักรสหวานอย่างแครอท หรือกะหล่ำปลีมาต้มให้เป็นน้ำสต็อกผัก
- ผลไม้ที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม เช่น กล้วยหอม แอปเปิ้ล ก็สามารถนำมาหั่นและบดให้ละเอียดได้เช่นกัน
- เมนูซุปต่าง ๆ เช่นซุปข้าวโพด ซุปฟักทอง
สาเหตุ ทำไม ลูก7เดือน นอนยาก พร้อมวิธีแก้
สาเหตุหลัก ๆ ของ ลูก7เดือน นอนยาก มักเกิดจากปัญหา ดังต่อไปนี้
- ลูกอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงพัฒนาการของระบบประสาท ซึ่งส่งผลให้ทารกนอนไม่หลับหรือตื่นบ่อยในช่วงกลางดึก
- สุขภาพและสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่มีทำให้ทารกนอนหลับยากได้ เช่น ทารกอาจมีอาการปวดท้อง หรือมีอาการท้องร่วง ก็อาจส่งผลให้ทารกนอนไม่หลับได้
ส่วนวิธีการแก้ไขปัญหาก็มีหลากหลายที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปปรับใช้ได้ เช่น
- สร้างสภาพแวดล้อมในการนอนที่ดี สะอาด เลือกผ้าปู หรือเตียงนอนที่นุ่ม สบาย เพื่อให้ลูกน้อยสามารถนอนหลับได้เต็มที่
- ลดเสียงดัง พยายามหาห้องนอนให้ลูกที่เงียบสงบ ไร้เสียงรบกวน
- ปรับแสงไฟให้ไม่สว่างจนเกินไป ติดตั้งหรือใช้หลอดไฟที่โทนสีอบอุ่น ไม่ทำให้รบกวนสายตา
- ทำให้ห้องนอนมีอากาศถ่ายเทได้ปลอดโปร่ง
สาเหตุ ทำไม ทารก7เดือน นอนกระสับกระส่าย ตื่นบ่อย พร้อมวิธีแก้
การที่ ทารก7เดือน นอนกระสับกระส่าย ตื่นบ่อย เป็นเรื่องปกติของทารกในวัยนี้ เนื่องจากเป็นวัยที่มีพัฒนาการของทั้งระบบประสาทและกล้ามเนื้อกำลังเกิดขึ้นในช่วงนี้ สามารถแก้ปัญหาได้โดยหลายวิธี ดังต่อไปนี้
- ปรับเวลาเข้านอนของทารกในแต่ละวันให้สม่ำเสมออาจช่วยแก้ไขเรื่องการนอนกระสับกระส่ายของทารกได้
- พยายามปลอบโยนเด็กให้สบายใจ เช่น เปิดเพลงไพเราะ หรือเพลงที่เหมาะกับเด็กน้อย
- พ่อแม่ต้องจัดสิ่งแวดล้อมให้สงบไม่วุ่นวาย เพื่อให้ลูกน้อยสบายใจ
ทารก7เดือน นอนกี่ชั่วโมง ถึงจะดี?
คำถามที่ว่าควรให้ ทารก7เดือน นอนกี่ชั่วโมง ดีนั้น โดยทั่วไปแล้วทารกวัย 7-8 เดือน ควรจะได้นอนประมาณ 14-15 ชั่วโมงต่อวัน แต่ก็อาจมีความแตกต่างกันไปของทารกแต่ละคน
คุณพ่อคุณแม่ สามารถแบ่งตารางการนอนของลูกน้อยได้ เช่น นอนตอนกลางวัน 3-4 ชั่วโมง และนอนตอนกลางคืนอีก 10-12 ชั่วโมง
ซึ่งการให้ทารกนอนหลับอย่างเพียงพอ จะทำให้พัฒนาการและร่างกายของทารกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเติบโตอย่างสมวัย
วิธีแก้ไข ลูก7เดือน ไม่ยอมดูดขวด
อีกหนึ่งปัญหาในเรื่อง ลูก7เดือน ไม่ยอมดูดขวด ติดเต้า ซึ่งคุณพ่อคุณแม่คงกำลังหาวิธีให้ลูกดูดนมจากขวด ซึ่งการดูดนมจากขวด จำเป็นต้องใช้การเคลื่อนไหวของปากกับลิ้น ซึ่งแตกต่างจากการดูดนมจากเต้า เพราะฉะนั้นจึ้งต้องให้เวลาลูกน้อยในการฝึกความคุ้นเคยในการดูดนมจากขวด และยังมีวิธีอื่น ๆ อีก ดังนี้
- ฝึกให้ดูดจากจุกยางก่อน อาจจะสลับระหว่างฝึกดูดจากยางและดูดนมจากเต้า เพื่อให้ลูกน้อยเกินความคุ้นชิน
- ลองเปลี่ยนอุณหภูมิของน้ำหรือนมให้อุ่นขึ้นหรือเย็นขึ้น ให้คุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าลูกน้อยจะชอบแบบไหน
- เปลี่ยนน้ำหรือนมที่มีรสชาติหรือกลิ่นต่างออกไป ทารกบางคนอาจจะไม่ชอบน้ำหรือนมที่กินอยู่ อาจจะให้ลูกน้อยลองน้ำผลไม้สด ๆ ที่ไร้การแตกสีและกลิ่น หรือพยายามให้ทารกได้ใช้เวลาหยิบจับขวดให้มีความคุ้นเคย อาจจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ทารกยอมดูดขวดได้
หากคุณต้องการดูเนื้อหาหัวข้อ เมนู อาหารเด็ก 7 เดือน เพื่อเตรียมอาหารให้ลูก7เดือน อย่างละเอียด
คุณสามารถ Click เข้าไปดูได้ที่ : แนะนำเมนูอาหารเด็ก 7 เดือน กินอะไรได้บ้างและไม่ควรกิน?
แก้ ทารก 7เดือน งอแง ควรทำยังไงดี?
การที่ ทารก 7เดือน งอแง นั้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่ก็มีวิธีการแก้ปัญหาได้ด้วยการที่ เมื่อทารกเริ่มงอแงคุณพ่อคุณแม่อาจจะลองเคาะที่หลังเบา ๆ หรือจูบที่หัวของทารก จะทำให้ทารกผ่อนคลายขึ้นและรู้สึกปลอดภัย ได้รับความรักและสนใจ ทำให้จิตใจสงบลงได้
เด็ก ทารก 7เดือน กินน้ํา ได้หรือไม่?
ตามข้อเท็จจริงแล้ว เด็ก หรือ ทารก 7เดือน กินน้ํา ได้ แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องให้น้ำด้วยความระมัดระวังในปริมาณที่เหมาะสม และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อย ๆ ตามความต้องการของลูกน้อยเท่านั้นเอง
สรุป
ในทารกเดือนที่ 7 เป็นช่วงวัยที่สำคัญมากอีกช่วงหนึ่ง เพราะมีการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกาย และสมอง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อมัดต่าง ๆ มีการพัฒนาแข็งแรงขึ้นจนสามารถเริ่มนั่ง หรือเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่ทารกในหลายๆด้าน ทั้งเรื่องอาหาร สุขอนามัย หรือสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับพัฒนาการของทารกในวัยนี้ เพื่อการเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ แข็งแรง และสมวัยของลูกอย่างดีที่สุด