เมื่อเด็กอายุครบวัย 5 เดือน จะมีปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงจาก พัฒนาการ ทารก 5 เดือน เช่น ตื่นกลางคืนบ่อย , ไม่ถ่าย 2 วัน , ไม่ยอมนอนกลางวัน , ท้องเสียถ่ายเป็นมูก , เด็กกรี๊ด , ทารกนอนคว่ํา ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่พ่อแม่ต้องรู้และใส่ใจกับลูกเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่อง ลูกกินอะไรได้บ้าง , ของเล่นเสริมพัฒนาการมีอะไรบ้าง และอื่นๆอีกมากมาย
ซึ่งบทความนี้จะพูดถึงพฤติกรรมและปัญหาที่จะเกิดขึ้นเมื่อเด็กเข้าสู่วัย 5 เดือน เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือและแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับลูกน้อยได้อย่างถูกวิธี ซึ่งอาจจะเกิดหรือไม่เกิดขึ้นกับลูกของคุณก็ได้ แต่ก็ควรศึกษาไว้เพื่อใช้เป็นความรู้ในการเลี้ยงดูลูกน้อยให้เจริญเติบโตสมวัยมากยิ่งขึ้น
พัฒนาการ ทารก 5 เดือน ด้านการเคลื่อนไหวและร่างกาย ควรเป็นยังไง ?
พัฒนาการ ทารก 5 เดือน ด้านการเคลื่อนไหว จะเป็นพัฒนาการที่สามารถสังเกตเห็นได้ชัดที่สุด โดยเด็กในวัยนี้จะเริ่มมีพฤติกรรมเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยขึ้น และไม่ชอบอยู่นิ่ง ๆ เป็นเวลานาน มาดูกันว่าพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวและร่างกายของเด็กวัย 5 เดือน ควรเป็นยังไงบ้าง
- การเพิ่มของน้ำหนักและส่วนสูง จากข้อมูลของสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ระบุว่าเด็กวัย 5 เดือน เพศชายจะมีน้ำหนักโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 6-7.5 กิโลกรัม และสูง 61-67 เซนติเมตร ส่วนเพศหญิงจะมีน้ำหนักโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5.5-7 กิโลกรัม และสูง 59-66 เซนติเมตร
- การพลิกตัวและคืบ เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยห้าเดือน พ่อแม่จะสังเกตเห็นได้อย่างง่ายว่าลูกน้อยจะสามารถนอนหงายและพลิกตัวได้ด้วยตัวเอง ซึ่งอาจจะมีการคืบและกลิ้งตัวไปมาร่วมด้วย ดังนั้นจึงควรระมัดระวังอย่าให้ลูกอยู่บนเตียงนอน โซฟา หรือที่สูงโดยลำพัง เพราะจะทำให้ตกจากที่สูงและมีการบาดเจ็บได้
- เริ่มนั่งตัวตรงได้นานขึ้น อาจจะนั่งได้โดยที่ไม่มีอะไรมาค้ำยัน สามารถทำได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรปล่อยให้ลูกนั่งตัวตรงด้วยตัวเองโดยที่ไม่มีอะไรรองรับ ในช่วงวัยนี้พ่อแม่สามารถเริ่มฝึกให้ลูกนั่งได้แล้ว แต่ก็ควรหาหมอนหรือสิ่งของต่าง ๆ มาให้ลูกนั่งพิงเพื่อทรงตัวได้นานมากขึ้น
- การยื่นมือหยิบจับสิ่งของ พ่อแม่จะสังเกตเห็นได้ว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงห้าเดือน ลูกน้อยจะเริ่มใช้มือคว้าหรือหยิบจับสิ่งของที่อยู่รอบตัวมากขึ้น และหลายครั้งก็มักจะหยิบสิ่งของเข้าปากตัวเอง ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดสิ่งของที่อยู่รอบตัวลูก เพื่อป้องกันเชื้อโรค
- อวัยวะส่วนล่างอย่างขาจะเริ่มมีความแข็งแรงมากขึ้น จะสังเกตได้ว่าเมื่อทารกมีอายุครบห้าเดือน มักจะมีการกระโดดขย่มตัวเมื่อถูกอุ้มหรือยกตัวขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากขาของเด็กเริ่มมีความแข็งแรง ทำให้สามารถลงน้ำหนักที่ขาได้มากขึ้น และมีความรู้สึกว่าอยากจะเดินด้วย
นอกจากนี้แล้วยังมีพัฒนาการด้านอื่นๆอยู่อีก
คุณสามารถ Click เข้าดูเนื้อหาหัวข้อนี้อย่างละเอียดได้ที่ : คู่มือ พัฒนาการ เด็ก 5 เดือน สำหรับคุณแม่มือใหม่ต้องอ่าน!!
แนะนำ ของเล่นเสริมพัฒนาการ 5 เดือน
เราจะเห็นว่าทารกในวัย 5 เดือน เริ่มจดจำและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นแล้ว โดยช่วงวัยนี้พ่อแม่ควรสบตาและพูดคุยกับลูกบ่อย ๆ นอกจากนี้ควรจะชวนลูกเล่นหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ลูกเรียนรู้สิ่งรอบข้างได้มากขึ้น และ ของเล่นเสริมพัฒนาการ 5 เดือน ก็มีดังนี้
- ยางกัดนิ่ม ๆ เนื่องจากทารกห้าเดือน จะเริ่มมีฟันขึ้น จึงควรหายางกัดไว้เป็นของเล่นให้กับลูกน้อย ซึ่งจะช่วยแก้อาการคันเหงือกได้อย่างแน่นอน แต่แนะนำให้เลือกยางกัดแบบพลาสติกนิ่ม ๆ ที่มีคุณภาพ คงทน และไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก นอกจากนี้ควรเลือกยางกัดที่มีสีสันสดใส เพื่อกระตุ้นให้ลูกน้อยจดจำและแบ่งแยกสีได้
- ตุ๊กตาที่มีเสียงกระดิ่ง เป็นของเล่นอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยม เพราะนอกจากภาพที่จะช่วยกระตุ้นการจดจำให้กับทารก 5 เดือนแล้ว เสียงก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญ การเลือกตุ๊กตาหรือของเล่นที่มีเสียงกรุ๊งกริ๊งจะช่วยดึงดูดความสนใจของลูกน้อยได้ ทำให้เขาอยากที่จะคว้าจับเพื่อเรียนรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร
- หนังสือที่มีรูปการ์ตูนขนาดใหญ่ จะช่วยดึงดูดความสนใจของทารกวัย 5 เดือนได้ อาจเลือกหนังสือที่มีตัวการ์ตูนอยู่ในลักษณะท่าทางต่าง ๆ เพื่อให้ลูกน้อยจดจำและเรียนรู้อิริยาบถเหล่านั้นได้อย่างง่าย แนะนำให้เลือกหนังสือที่มีกระดาษหนา แต่ไม่มีมุมแหลมคม และควรเลือกหนังสือที่มีภาพขนาดใหญ่และสีสันสดใส
- แฟลชการ์ด เป็นอีกหนึ่งของเล่นที่ช่วยเสริมพัฒนาการเด็ก 5 เดือนได้เป็นอย่างดี โดยให้เลือกการ์ดที่แสดงถึงกิจวัตรประจำวันของเด็ก ซึ่งต้องมีภาพประกอบที่เด็กวัยห้าเดือน สามารถมองเห็นและจดจำได้อย่างง่าย เพื่อให้เขาซึมซับภาพเหล่านั้นได้มากที่สุด
ลูก 5 เดือน กินอะไรได้บ้าง ?
เมื่อเข้าสู่ช่วงพัฒนาการ ลูก 5 เดือน กินอะไรได้บ้าง นอกจากนมแม่และนมผงแล้ว สำหรับเด็กที่สามารถนั่งได้โดยกล้ามเนื้อที่คอเริ่มแข็งแล้ว โดยส่วนใหญ่แล้วคุณหมอจะแนะนำให้พ่อแม่ป้อนอาหารเสริมให้กับลูก โดยเริ่มต้นวันละ 1 มื้อ และจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งด้วย มาดูกันว่าลูกน้อยวัย 5เดือน สามารถกินอะไรได้บ้า
- ข้าวบดใส่ผัก นิยมใช้ข้าวหอมมะลิหรือข้าวกล้องนำมาบดให้ละเอียด จากนั้นใส่ผัก 1 ชนิด โดยเลือกผักที่ย่อยง่ายนำมาบดให้ทานได้อย่างง่ายขึ้น มีสารอาหารจำเป็นที่ช่วยบำรุงสมองและสายตา ส่วนผักจะช่วยเสริมสร้างระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายของลูกน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เนื้อสัตว์บด สามารถเลือกเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ หรือเนื้อปลาช่อนได้ แต่ควรระวังอย่าให้มีก้างติดมาด้วย ซึ่งอาหารจำพวกนี้จะมีโปรตีน ไขมัน แร่ธาตุ วิตามิน และสารอาหารอื่น ๆ ที่สำคัญต่อร่างกายของลูกน้อย โดยจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทารกห้าเดือน ให้แข็งแรงและเติบโตสมวัยได้อย่างแน่นอน
- ตับบด นอกจากเนื้อสัตว์แล้ว ตับบดก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่พ่อแม่สามารถนำมาให้ลูกน้อยกินได้ โดยตับบดนั้นจะต้องสะอาดและมีคุณภาพ นำมาต้มจนสุกแล้วบดให้ละเอียด ส่วนใหญ่จะนิยมผสมกับข้าวบดละเอียด โดยตับบดจะมีโปรตีน ธาตุเหล็กสูง และวิตามินบี 12 จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและส่วนที่สึกหรอได้เป็นอย่างดี
หากคุณต้องการดูเนื้อหาหัวข้อ ลูก 5 เดือน กินอะไรได้บ้าง อย่างละเอียด
คุณสามารถ Click เข้าไปดูได้ที่ : แนะนำเมนูอาหารเด็ก 5 เดือน กินอะไรได้บ้างและไม่ควรกิน?
สาเหตุที่ ลูก 5 เดือน ตื่นกลางคืนบ่อย เกิดจากอะไร?
การที่ ลูก 5 เดือน ตื่นกลางคืนบ่อย ๆ เกิน 2 รอบ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้
- สาเหตุแรกคือความหิว โดยปกติจะให้ลูกวัยห้าเดือน กินนมก่อนนอน ในบางครั้งลูกอาจกินนมยังไม่อิ่มแต่เผลอหลับไปก่อน จึงทำให้ตื่นขึ้นมาในตอนกลางคืนพร้อมกับอาการงอแงจากความรู้สึกหิว หรือในกรณีที่เริ่มให้ลูกอย่านมในตอนกลางคืน อาจจะยังไม่คุ้นชินกับการที่ไม่ได้กินนม จึงทำให้ตื่นขึ้นมาในตอนกลางคืนบ่อยครั้ง
- ลูกน้อยนอนกลางวันมากเกินไป ทำให้ตื่นกลางคืนบ่อย ๆ ได้ อาจเกิดจากความเหนื่อยล้าจากการเล่นหรือทำกิจกรรมในระหว่างวัน จนเผลอหลับในช่วงกลางวันเป็นเวลานาน เมื่อถึงเวลากลางคืนที่ต้องนอนก็จะนอนหลับได้ไม่เต็มที่ หรือถ้าหากหลับไปแล้วก็มักจะตื่นในตอนกลางคืนบ่อยครั้ง
- รู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว ทำให้ตื่นกลางคืนบ่อย เนื่องจากมีแก๊สในกระเพาะอาหาร ซึ่งมักจะเกิดจากนมหรืออาหารเสริมที่คุณพ่อคุณแม่ให้ลูกกิน เนื่องจากระบบย่อยอาหารของเด็กวัยนี้ยังทำงานได้ไม่เต็มที่ เมื่อกินนมหรืออาหารที่ย่อยได้ยาก จะทำให้มีการสะสมแก๊สในกระเพาะอาหารจนเด็กไม่สามารถนอนหลับได้
- เกิดจากการเจ็บป่วย เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เด็กส่วนใหญ่นอนไม่หลับ หรือมักจะตื่นในตอนกลางคืนอยู่บ่อย ๆ ควรสังเกตดูว่าลูกน้อยมีอาการป่วยหรือผิดปกติหรือไม่ เช่น ร้องไห้ งอแง มีไข้ ท้องเสีย กินได้น้อยลง เป็นต้น ถ้าหากมีอาการเหล่านี้ก็แสดงว่ากำลังรู้สึกไม่สบายตัวจากการเจ็บป่วย จึงทำให้ตื่นขึ้นมาในตอนกลางคืน
- ภาวะเครียด เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ ลูก 5 เดือน ตื่นกลางคืนบ่อย
- กำลังมีฟันขึ้น
ซึ่งโดยปกติแล้ว เด็กวัย 5เดือน จะนอนช่วงเช้าประมาณ 1-2 ชั่วโมง และนอนในช่วงบ่ายอีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง
และถ้าเด็กบางคนไม่ค่อยนอนตอนกลางวัน ก็จะนอนตอนกลางคืนได้ยาวขึ้น ซึ่งการตื่นนอนในตอนกลางคืนของเด็กโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2 รอบ
ทารก 5เดือน ตื่นบ่อย ตอนกลางคืน มีผลเสียหรือไม่?
หาก ทารก 5เดือน ตื่นบ่อย ตอนกลางคืน อาจมีผลเสียดังนี้
- นอนได้ไม่เต็มที่ ทำให้ลูกน้อยวัย 5เดือน มีอาการงอแงตลอดทั้งวันทั้งคืน พ่อแม่ก็ต้องเหนื่อยกับการทำให้ลูกสงบพอสมควร ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของพ่อแม่ได้ รวมทั้งลูกน้อยก็อาจจะนอนไม่เป็นเวลาอีกด้วย เพราะฉะนั้นพ่อแม่ควรหาสาเหตุและแก้ไขให้ตรงจุด เพื่อให้ลูกน้อยนอนได้อย่างเต็มที่
- กินนมได้น้อยลง เนื่องจากนอนไม่เต็มที่ หรือนอนได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น จึงส่งผลให้ลูกมีความรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย รวมถึงอาการงอแงและร้องไห้ไม่หยุด ส่งผลให้กินนมได้น้อยลงด้วย ดังนั้นถ้าหากลูกน้อยเผลอตื่นขึ้นมาในตอนกลางคืน พ่อแม่ควรทำให้ลูกผ่อนคลายและนอนได้เร็วที่สุด
- ส่งผลต่อการเจริญเติบโต เมื่อทารกตื่นกลางคืนบ่อย ๆ จะทำให้ขาด Growth Hormone ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตในเด็ก ส่งผลให้ทารกมีการเจริญเติบโตช้า และตัวเตี้ย เพราะการที่ทารกนอนได้ไม่เต็มที่นั้นจะทำให้ฮอร์โมนดังกล่าวหยุดทำงาน หรือทำงานไม่ต่อเนื่อง
- ส่งผลต่อพัฒนาการในด้านต่าง ๆ เนื่องจากนอนหลับได้ไม่เพียงพอ จึงทำให้ลูกน้อยในวัยนี้ไม่มีอารมณ์ในการเล่นหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน จะส่งผลต่อพัฒนาการการเรียนรู้ในด้านต่าง ๆ ได้ ดังนั้นพ่อแม่ควรหาวิธีทำให้ลูกน้อยอารมณ์ดีให้ได้ เพื่อให้เขาสนใจที่จะเรียนรู้และฝึกฝนตนเองในเรื่องต่าง ๆ
ลูก 5เดือน ไม่ถ่าย 2 วัน เกิดจากอะไรและควรทำอย่างไร?
โดยส่วนใหญ่แล้วการที่ ลูก 5เดือน ไม่ถ่าย 2 วัน หรือหลายวันอาจเป็นเพราะปริมาณแลคโตสในนมแม่น้อยลง ซึ่งต่างจากในช่วงแรกที่นมแม่จะมีปริมาณแลคโตสค่อนข้างเยอะ จึงทำให้สามารถย่อยได้ง่าย และมีการขับถ่ายเกิดขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้นมที่ชงให้ลูกก็อาจมีปริมาณแลคโตสน้อยเช่นเดียวกัน มาดูว่าจะมีวิธีแก้ได้ยังไงบ้าง
- ทานอาหารที่มีกากใย ในกรณีที่ลูกวัย 5เดือน ยังกินนมแม่อยู่ แนะนำให้คุณแม่เลือกทานอาหารที่มีกากใย เช่น มะละกอสุก มะม่วงสุก ผักใบเขียว น้ำส้ม เป็นต้น ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ลูกได้รับกากใยจากนมแม่ ทำให้ลูกน้อยมีโอกาสที่จะเกิดการขับถ่ายได้มากขึ้น
- เปลี่ยนนมผง เคยมีการพิสูจน์แล้วว่านมผงหลายยี่ห้ออาจมีปริมาณแลคโตสค่อนข้างน้อย จึงทำให้ทารกที่กินนมดังกล่าวขับถ่ายได้ยากขึ้น เมื่อนมไม่มีกากใยก็จะส่งผลให้เด็กหยุดขับถ่ายไปหลายวัน เพราะฉะนั้นหากตรวจสอบดูแล้วว่านมผงที่นำมาชงให้ลูกกินมีสารอาหารน้อย แนะนำให้ลองเปลี่ยนยี่ห้อนมผงแล้วสังเกตดูว่าวิธีนี้ใช้ได้ผลหรือไม่
- พบแพทย์ อาการไม่ถ่ายติดต่อกัน 2 วัน อาจไม่ใช่เรื่องที่ดูน่ากังวลมากนัก แต่ถ้าหากมีอาการดังกล่าวติดต่อกันเป็นเวลานานและมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย พ่อแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาในขั้นตอนต่อไป
ลูก 5เดือน ไม่ยอมนอน กลางคืน ทำยังไงดี?
โดยทั่วไปแล้วการที่ ลูก 5เดือน ไม่ยอมนอน กลางคืน อาจเกิดจากภาวะเหนื่อยล้าจนไม่สามารถนอนหลับได้ ซึ่งมีวิธีแก้ไขอยู่ จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกัน
- อุ้มลูกแล้วโยกไปมาเบา ๆ ถือเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถแก้ไขอาการไม่ยอมนอนของลูกน้อยจากภาวะ Overtired Baby ได้ เพราะการอุ้มลูกจะช่วยทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย จนมีความสงบมากขึ้น อาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง พ่อแม่ควรอุ้มลูกแล้วโยกไปมาแบบเบา ๆ จนกว่าลูกจะรู้สึกสงบหรือหลับไป
- ให้ลูกกินนมจากเต้าคุณแม่ ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ลูกน้อยสงบและยอมนอนได้ง่ายขึ้น เพราะการที่ลูกได้กินนมแม่จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ หากปล่อยให้ลูกน้อยร้องไห้งอแงโดยที่ไม่พยายามทำอะไรเลย อาจทำให้ลูกไม่ยอมนอนเลยทั้งคืน จะส่งผลให้อาการหนักขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงควรรีบทำให้ลูกสงบเร็วที่สุด
- จัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการนอนของลูก เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้ได้ผล จะช่วยทำให้ลูกน้อยสามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น เพราะภาวะดังกล่าวจะทำให้ลูกรู้สึกงอแง และอยู่อย่างไม่สงบ เพราะฉะนั้นจึงควรจัดห้องนอนของลูกให้มีบรรยากาศเงียบสงบ มีความสว่างน้อย เน้นความมืดสลัวเพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูน่านอนมากขึ้น
ลูก 5เดือน ไม่ยอมนอน กลางวัน ทำยังไงดี?
ในเวลาตอนกลางวัน ก็มีปัญหา ลูก 5เดือน ไม่ยอมนอน กลางวัน เช่นกัน ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาได้ดังนี้
- กล่อมลูก วิธีนี้พิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกผ่อนคลายได้ ซึ่งคุณแม่สามารถร้องเพลงหรือเปิดเพลงเบา ๆ และอาจจะตบก้นลูกเบา ๆ ร่วมด้วย เพื่อให้ลูกมีความรู้สึกสบายตัวและอยากนอนมากขึ้น และอาจจะเลือกเพลงแนวคลาสสิกที่ไม่มีเนื้อร้องก็จะช่วยให้เคลิ้มหลับได้ดี
- กำหนดเวลาในการนอนและการทำกิจกรรมของลูกให้เหมาะสม ถือเป็นวิธีแก้ที่ต้นเหตุโดยแท้จริง เพราะภาวะ Overtired Baby เกิดจากการที่ลูกเล่นหรือทำกิจกรรมในระหว่างวันมากเกินไป ส่งผลให้รู้สึกเหนื่อยล้าจนนอนไม่หลับ และควรจัดตารางเวลาในการกินนม การนอน และการทำกิจกรรมให้เหมาะสมด้วย
ทารก5เดือน กรี๊ด รับมือยังไงดี?
ช่วงพัฒนาการเด็ก 5เดือน จะเห็นได้ว่าทารกในวัยนี้จะมีพฤติกรรมสนใจสิ่งแวดล้อม และเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมากขึ้น แต่เนื่องจากมีทักษะการสื่อสารด้วยภาษาพูดที่ยังไม่ดีนัก เมื่อมีอาการโมโหจึงมักจะกรี๊ดเสียงดัง ซึ่งพ่อแม่สามารถรับมือ ทารก5เดือน กรี๊ด ได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- ฝึกให้ลูกอยู่คนเดียว ลูกน้อยวัยนี้อาจไม่ชินที่ต้องอยู่คนเดียว เพราะจะรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย โดยเฉพาะเด็กที่ติดพ่อแม่มาก ๆ จะไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ เมื่อพ่อแม่ปล่อยให้อยู่คนเดียวก็จะร้องกรี๊ด แสดงความรู้สึกไม่พอใจออกมา ดังนั้นควรฝึกให้ลูกอยู่คนเดียวและเข้าไปหาเป็นระยะ ๆ เพื่อให้เกิดความคุ้นชิน
- ทำสีหน้านิ่งเฉย ไม่สนใจ การที่ลูกร้องกรี๊ดแล้วเข้ามาโอ๋หรืออุ้ม จะทำให้ลูกเรียนรู้ว่าการกรี๊ดเป็นวิธีเรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่ได้ และเมื่อไหร่ที่ลูกหงุดหงิดหรือต้องการให้พ่อแม่สนใจก็มักจะร้องกรี๊ดไม่หยุด เมื่อเห็นลูกกรี๊ดให้ทำสีหน้านิ่งเฉย และทำกิจกรรมอื่น เพื่อให้ลูกเรียนรู้ว่าการกรี๊ดไม่ได้ช่วยให้พ่อแม่หันมาสนใจ
- ทำท่าทางตลก เมื่อลูกงอแงและร้องกรี๊ด พ่อแม่สามารถทำให้ลูกอารมณ์ดีขึ้นได้โดยการทำท่าทางตลก ๆ หรือใช้ของเล่นเพื่อดึงดูดความสนใจจากลูก แต่ไม่ควรโอ๋หรือทำอะไรตามใจลูกมากเกินไป เพราะจะทำให้ลูกนั้นเกิดความเคยตัว จนกลายเป็นพฤติกรรมที่พ่อแม่แก้ไขได้ยาก
- ในกรณีที่ลูกน้อยร้องกรี๊ดเพราะแย่งของเล่น พ่อแม่ควรเก็บของเล่นที่เป็นต้นเหตุให้ลูกกรี๊ดในทันที เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ว่าการกรี๊ดไม่ได้ทำให้เขาได้ของเล่นนั้น ในขณะเดียวกันหากลูกหยุดพฤติกรรมการกรี๊ดได้ สิ่งที่พ่อแม่ควรทำก็คือการชื่นชมลูกเพื่อให้เขารู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นถูกต้องแล้ว
ทารก5เดือน นอนคว่ํา ได้ไหม? อันตรายหรือไม่?
เมื่อเข้าสู่ช่วงพัฒนาการทารก 5เดือน คุณพ่อคุณแม่อาจสงสัยว่า ทารก5เดือน นอนคว่ํา ได้ไหม ซึ่งหากพบว่าลูกน้อยสามารถชันคอได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถให้ลูกนอนคว่ำได้
อย่างไรก็ตามแม้ว่าในช่วง 4-5เดือน จะเป็นช่วงที่ให้ลูกนอนคว่ำได้แล้ว แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้ลูกอยู่เพียงลำพัง พ่อแม่ต้องคอยสังเกตลูกอยู่ตลอดเวลาว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อลูกน้อย
และหากใครที่มีลูกจะทราบดีว่าในช่วงวัยแรกเกิดจนถึง 3 เดือน คุณหมอจะแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่จับลูกนอนหงายหรือนอนตะแคง เนื่องจากทารกในวัยนี้ยังไม่แข็งแรง โดยเฉพาะกระดูกบริเวณต้นคอ ทารกยังไม่สามารถชันคอด้วยตัวเองได้ ท่านอนที่เหมาะสมที่สุดจึงเป็นท่านอนหงายหรือท่านอนตะแคง
ทารก5เดือน ท้องเสีย ถ่ายเป็นมูก ปนเลือดเกิดจากอะไร? อันตรายหรือไม่?
การที่ ทารก5เดือน ท้องเสีย ถ่ายเป็นมูก ปนเลือด สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ในกรณีที่ถ่ายเป็นมูกเฉย ๆ อาจไม่อันตรายมากนัก แต่ถ้าหากมีเลือดปนมาด้วยก็ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีนัก พ่อแม่ควรจะพาลูกน้อยไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
- ภาวะท้องเสียเรื้อรัง ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยถ่ายเป็นมูกปนเลือด โดยเฉพาะอาการท้องเสียที่มีระยะยาวนานกว่า 3-4 สัปดาห์ จะทำให้รูทวารเกิดการอักเสบจนเป็นแผลได้ เนื่องจากมีการขับถ่ายเป็นเวลานานมากเกินไป ซึ่งถ้าหากปล่อยไว้นาน ๆ จะส่งผลให้อาการรุนแรงมากขึ้นได้ และอาจเป็นอันตรายต่อเด็ก
- การแพ้โปรตีนจากนมวัว ในกรณีนี้จะเกิดขึ้นกับเด็กทารกบางคนที่แพ้โปรตีนจากนมวัว เกิดจากพ่อแม่ชงนมให้ลูกกินโดยที่ไม่รู้ว่าลูกแพ้โปรตีนจากนมวัว เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะร่างกายจะมีปฏิกิริยาต่อโปรตีนในนมวัว ส่งผลให้มีอาการถ่ายเหลว เป็นเมือกและอาจมีเลือดออกได้ อาจจะไม่ได้อันตรายนัก แต่ก็ควรงดให้ลูกกินนมวัว
- โรคลำไส้อักเสบ สามารถเกิดจากโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคโครห์น หรือโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นโรคที่ระบบทางเดินอาหารมีการอักเสบ จนอาจส่งผลให้ลูกน้อยมีอาการท้องเสียและเกิดเป็นมูกเลือดได้ ถ้าหากเสียเลือดเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นอันตรายจนทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้
- โรคแผลขอบทวาร เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยมีอาการถ่ายเป็นมูกปนเลือดได้ เกิดจากการที่เด็กขับถ่ายบ่อยมากเกินไป จนทำให้มีรอยแผลบริเวณเยื่อบุปากทวารหนัก หากมีการเสียดสีในขณะขับถ่าย จะทำให้มีเลือดออกมาปนกับอุจจาระได้ ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์และหาทางรักษา
สรุป
จะเห็นได้ว่าเมื่อทารกเข้าสู่ช่วงห้าเดือน พ่อแม่จำเป็นต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่ลูกน้อยเป็นพิเศษ เพราะทารกวัยห้าเดือน ถือเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยเด็กในวัยนี้จะมีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือก ของเล่นเสริมพัฒนาการ 5 เดือน ให้ลูกได้ จึงสามารถเรียนรู้และตอบโต้สิ่งรอบข้างได้
เมื่อลูกน้อยมีพัฒนาการมากขึ้นก็จะส่งผลให้มีพฤติกรรมแตกต่างไปจากเดิม ดังนั้นการศึกษาวิธีรับมือกับปัญหาต่าง ๆ จากลูกน้อยวัย5เดือน จึงมีความสำคัญอย่างมาก สำหรับพ่อแม่คนใดที่มีลูกน้อยวัย5เดือน ซึ่งกำลังจะเข้าสู่ช่วงพัฒนาการเด็กห้าเดือน สามารถนำความรู้ในบทความนี้ไปใช้ในการเลี้ยงลูกของตนเองได้เลย
แหล่งที่มา : hellokhunmor , maerakluke , ihealzy